(ในหนังสือ The Ascent เรียกว่า "จักรวาลย่อส่วน")
คำว่า จักระ หมายถึง "ล้อ" ที่หมุนตามเข็มนาฬิกาด้วยความถี่เฉพาะของมันเอง ณ ตำแหน่งต่าง ๆ ในร่างกาย เหมือนกับที่โลกหมุนรอบแกนของตนเอง แต่ละจักระจะปรากฏออกมาในทางกายภาพเป็นเส้นร่างแหประสาท (plexus) ภายนอกกระดูกสันหลัง และควบคุมอวัยวะของร่างกายมนุษย์ รวมถึงระบบประสาทและต่อมไร้ท่อในบริเวณที่สอดคล้องกัน
ในทุกขณะ แต่ละเส้นประสานประสาทจะรับและส่งไวเบรชั่นอยู่เสมอ การที่เรารู้ว่าอะไรดึงดูดพลังงานเหล่านี้ และอะไรที่รบกวนพวกมัน เป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาวะของเรา ทุกความคิดและการกระทำมีอิทธิพลต่อความไวและการทำงานของศูนย์พลังเหล่านี้
เมื่อจักระทำงานปกติดี ไม่ถูกกดดันหรือไม่ได้หมดพลังงาน กุณฑาลินีก็สามารถแทงทะลุเข้าไปตรงจุดศูนย์กลางของจักระเหล่านี้ได้โดยง่าย
แต่ความไวของจักระจะสูญเสียไปหลังจากถูกกระทบกระแทกครั้งแรก ๆ จากพฤติกรรมที่ขาดความรับผิดชอบ แล้วมนุษย์ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่กับวิถีที่ทำลายตนเองและนิสัยที่เป็นโทษได้โดยง่าย
กุณฑาลินีจะพุ่งทะลุขึ้นไปเองจนถึงระดับหนึ่ง สามารถรู้สึกถึงการเต้นเป็นจังหวะอย่างชัดเจนที่จุดซึ่งจักระถูกปิดกั้น ท่านจะตอบสนองต่อความต้องการของจักระ รักษาโรคหรือการหดเกร็ง และเปิดทางเพื่อให้ท่านไต่สูงขึ้นต่อไป
เทคนิคการบำบัดของสหจะโยคะทำงานผ่านเครือข่ายละเอียดอ่อนนี้เองกุณฑาลินีผู้เป็นแม่มีผลในการหล่อเลี้ยง ควบคุม และแก้ไขการทำงานของต่อมและกระบวนการในร่างกายที่จักระควบคุมอยู่ ดังนั้นจึงสามารถกำจัดรากเหง้าของโรคได้
ดังนั้น เราไม่จำเป็นต้องรอความตายเพื่อเข้าสู่อาณาจักรแห่งสวรรค์ หากจักระของเราเปิดและสะอาด โลกนี้ก็สามารถเป็นสวรรค์ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะต้องเข้าใจการทำงานของจักระ
หากสิ่งแวดล้อมที่จักระได้รับเป็นด้านลบ จักระก็จะดูดซับความเป็นลบนั้น และท้ายที่สุดจะก่อให้เกิดโรคและความทุกข์ในมนุษย์ นี่คือสภาวะของนรก นรกไม่ได้มาหลังความตายเท่านั้น แต่สามารถเป็นสภาพแห่งความทุกข์ทรมานที่เราพบเจออยู่บนโลกนี้
ดังนั้นมี 3 สิ่งที่ชัดเจนคือ
1. เราต้องรู้จักรากหรือจักระของเรา
2. จักระควรแข็งแรงและใสสะอาด
3. สิ่งแวดล้อมของเราควรเอื้ออำนวยและเป็นบวกต่อการเติบโตที่ดีของจักระ
ในสหจะโยคะ เป็นไปได้ที่แต่ละคนจะไวต่อจักระของตนเองและของผู้อื่น ความไวนี้ทำให้สามารถระบุสภาพของจักระของตนเองได้ และสามารถวินิจฉัยผลของกิจกรรมทั้งทางกายและทางใจที่มีต่อจักระได้ ความไวนี้ถูกรับรู้เป็นไวเบรชั่นที่มือ
จักระ – กลีบ – เส้นร่างแหประสาท – กายภาพ
นี่คือคำอธิบายโดยสังเขปของจักระทั้งเจ็ด และพฤติกรรม ทัศนคติ หรือการกระทำแบบใดที่ทำให้การไหลของพลังงานในจักระถูกบล็อก ซึ่งสุดท้ายอาจนำไปสู่โรค หากจักระไม่ได้รับการดูแล
ด้วยการนั่งสมาธิประจำวันต่อหน้ารูปถ่ายของศรีมาตาจี จักระก็สามารถถูกปลุกให้ตื่น ทำความสะอาด และชำระให้บริสุทธิ์โดยอัตโนมัติ ส่งผลให้เรามีชีวิตที่สมดุลทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และจิตวิญญาณ ที่เกิดขึ้นจริงคือจักระเริ่มแสดงคุณสมบัติที่แท้จริงออกมา ซึ่งย่อมนำไปสู่สังคมที่ดียิ่งขึ้น — โลกที่ดีและมีสุขภาพยิ่งขึ้น
ดังนั้น หากคุณดูตารางด้านล่าง คุณจะเห็นว่าอะไรคือสิ่งที่รบกวนจักระ (เราเรียกว่า catches) ซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไขก็จะนำไปสู่โรค แต่ด้วยการนั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอตามที่กล่าวไว้ จักระของเราจะเริ่มใสสะอาดขึ้น และคุณสมบัติที่แท้จริง หรือ พร ก็จะเริ่มปรากฏ
อธิบายจักระทั้ง 7 โดยท่านศรีมาตาจี
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับจักระ
เข้าร่วมโปรแกรมฝึกสมาธิออนไลน์ฟรี