การตื่นรู้ เป็นเป้าหมายสูงสุดของทุกศาสนา
และทุกประเพณีทางจิตวิญญาณของโลกมาโดยตลอด
แต่ในอดีตนั้นเป็นสิ่งที่บรรลุได้ยากยิ่งนัก
บัดนี้ ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ในวงกว้าง
ที่สามารถบรรลุได้อย่างไม่ต้องพยายาม
ผ่านทางสหจะโยคะ ซึ่งเป็นของขวัญอันล้ำค่า
ที่ศรีมาตาจีมอบไว้แก่มนุษยชาติ
“การตื่นรู้ คือการเผชิญหน้ากับความจริงครั้งแรก”
ศรีมาตาจีได้ค้นพบวิธีการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
ในการปลุกกุณฑาลินี และนี่คือรากฐาน
ของการนั่งสมาธิแบบสหจะโยคะ
ในอดีต การปลุกพลังจิตวิญญาณภายในนี้ สามารถบรรลุได้เพียงบุคคลไม่กี่คนเท่านั้น ผ่านความพยายามอย่างหนักในการชำระจิตใจ การบำเพ็ญตบะ และการทำสมาธิเป็นเวลานาน
แต่การค้นพบของศรีมาตาจีเกี่ยวกับการปลุกกุณฑาลินี ไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือการปฏิบัติทางจิตวิญญาณมาก่อน
การตื่นขึ้นของพลังนี้สามารถถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้ โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน ไม่ต้องมีวุฒิบัตร หรือเป็นศิษย์ใด ๆ
“เหมือนกับเทียนที่ถูกจุดแล้วสามารถจุดเทียนอีกเล่มหนึ่งได้”
‘การตื่นรู้’(Self-Realization)
คือชื่อที่มอบให้กับการตื่นทางจิตวิญญาณนี้
พลังละเอียดอ่อนที่รู้จักกันในภาษาสันสกฤตว่า ‘กุณฑาลินี’ อยู่ที่ฐานของกระดูกสันหลัง เมื่อถูกปลุกขึ้น พลังที่เมตตาและบำรุงเลี้ยงนี้ จะเคลื่อนขึ้นผ่านกลุ่มเส้นประสาทในร่างกาย และออกจากยอดศีรษะบริเวณกระหม่อม (fontanel bone)
ผู้ปฏิบัติสามารถรู้สึกถึงพลังนี้เป็นลมเย็นเหนือศีรษะ รวมถึงที่ฝ่ามือด้วย
พลังนี้ หากรักษาไว้ด้วยการทำสมาธิแบบสหจะโยคะ จะมีผลรักษาและปรับสมดุลให้กับระบบร่างกาย และยังเอื้อให้เกิดสภาวะฟื้นฟูที่เรียกว่า ‘สติรู้ที่ปราศจากความคิด’ (Thoughtless Awareness) ซึ่งจิตอยู่ในภาวะสงบแต่มีสติรับรู้เต็มที่ สิ่งที่ทำให้การทำสมาธิแบบสหจะโยคะแตกต่างจากเทคนิคอื่น คือสภาวะของ ‘สติรู้โดยปราศจากความคิด’ นี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและไม่ต้องใช้ความพยายาม
เนื่องจากความเรียบง่ายและสามารถเข้าถึงได้ ผู้คนนับแสนคนได้ตื่นรู้ผ่านสหจะโยคะแล้ว โดยมีศูนย์สมาธิในกว่า 130 ประเทศที่เปิดคอร์สฟรีถาวรและให้การสนับสนุนชุมชนแก่ผู้ปฏิบัติสมาธิแบบเรียบง่ายแต่สำคัญนี้
ประสบการณ์ของการตื่นรู้ ผ่านสหจะโยคะ มอบประโยชน์อย่างมากแก่ผู้ที่ใช้เวลาแม้เพียงเล็กน้อยในการทำสมาธิทุกวัน
ช่วยลดความเครียดและความเหน็ดเหนื่อย ฟื้นฟูสมดุลทางอารมณ์ และมอบความสงบและความพึงพอใจแก่ผู้ปฏิบัติ แม้ในสถานการณ์ที่วุ่นวายที่สุด